เสริมความงาม : รู้จักกับ Licorice Extract

Licorice extract สารสกัดจากชะเอม

Licorice ชื่อนี้แทบจะไม่มีใครไม่เคยได้ยินมาก่อน ถึงจะจำไม่ได้แต่ก็ต้องคุ้นๆกันบ้าง เนื่องจากเครื่องสำอางค์ ครีมบำรุงต่างๆ หลากหลายชนิดต่างก็สรรหาเจ้า Licorice มาเป็นส่วนผสม ไม่เว้นแม้แต่สบู่ หรือ เจลอาบน้ำ เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลิตภัณฑ์ที่เน้นเรื่องความขาวกระจ่างใสของผิวพรรณ์ เจ้า Licorice extract นี้ก็คือ สารสกัดจากชะเอมนั้นเอง แต่ถ้าคิดว่าสารสกัดที่ได้จากชะเอมนั้นจะมีราคาถูก คุณคิดผิดถนัดเลยทีเดียว เพราะถ้าต้องการซื้อสารสกัดชะเอมนี้สัก 1 กิโลกรัม คุณอาจต้องควักเงินซื้อมากกว่า รถยนต์ญี่ปุ่น ป้ายแดงบางรุ่นเสียอีก
แล้วอะไรที่ทำให้ เจ้า Licorice extract นี้ทำให้ผิวกระจ่างสว่างใส และถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆมากมายละ และสิ่งนั้นก็คือ สารที่ชื่อว่า Grabridin (C20 H20 O4) นั้นเอง ซึ่งสารนี้ มีรูปร่างลักษณะเป็นผงละเอียดสีเหลือง – น้ำตาลแดง เจ้า Grabridin นี้ สามารถทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ไทโรซิเนส (tyrosinase) ในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน ได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างสูงเมื่อเทียบกับสารอื่นๆในปริมาณที่เท่ากัน เรียกได้ว่าเป็นสาร whitening ระดับตัวแม่ก็ว่าได้ แต่ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Licorice นั้นก็ใช่ว่าจะได้ผลดีเหมือนๆกัน โดยจะมีผลเพียงใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับปริมาณความเข้มข้นของ Licorice ที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์นั้นๆด้วย
การทดลองเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของ Licorice ในการยับยั้งการสร้างเม็ดสีนั้นมีหลากหลายผลงานการทดลอง โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ทั้งการทดลองในหลอดทดลอง รวมถึงการทดลองกับอาสาสมัครในเชิงคลีนิค ด้วย อย่างไรก็ดีผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดของ licorice นั้นส่วนใหญ่จะมีสีที่เข้มขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งไม่มีผลต่อประสิทธิภาพการยับยั่งกระบวนการสร้างสีผิว ของ Grabridin แต่อย่างใด (อ้างอิงจาก Maruzen Pharmaceuticals)

เสริมความงาม : บุหรี่ศัตรูของผิวคุณ

บุหรี่ ปัจจัยที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย

บุหรี่เป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอยแห่งวัย

ควันบุหรี่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสารเคมีในร่างกาย ซึ่งไปเร่งกระบวนการเกิดริ้วรอยให้เร็วขึ้น ดังนั้นผู้ที่สูบบุหรี่ จะมีสภาพผิวที่ดูแก่กว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ อย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงทำให้เส้นเลือดหดตัว ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ การทำงานของเซลล์ต่างๆเป็นไปอย่างผิดปกติ

การสูบบุหรี่ทำให้ร่างกายได้รับ อนุมูลอิสระจากควันบุหรี่ ซึ่งมีผลก่อให้เกิดการสลายตัวของคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวโดยตรง แล้วยังไปกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์ในชั้นผิว ซึ่งเป็นเอ็นไซม์ที่ไปสลาย คอลลาเจนในผิวให้ทำงานมากกว่าปกติ ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย โดยผู้ที่สูบบุหรี่โดยเฉลี่ยแล้ว การเกิดริ้วรอยนั้นจะเร็วกว่าปกติ 5 - 10 เท่า ยิ่งไปกว่านั้นบุหรี่ยังทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ทำให้ผิวแห้งกร้านได้ง่ายกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งทำให้สุขภาพผิวแย่ลงและทำให้ริ้วรอยดูลึกขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น และยังมีผลทำให้เกิดการอุดตันของต่อมไขมันในชั้นผิว และเกิดการอักเสบของสิวได้มากกว่าปกติอีกด้วย

นอกจากนี้การสูบบุหรี่ยังเป็นต้นเหตุให้เกิดโรคร้ายแรงหลายชนิด เช่น โรคมะเร็ง โรคระบบทางเดินหายใจ อีกด้วย

เสริมความงาม : รู้จักกับ UV

ผลิตภัณฑ์กันแดดและรังสี UV
บนฉลากผลิตภัณฑ์ประเภทกันแดด (Sun-Block / Sun-Screen) หลายท่านคงเคยเห็นสัญลักษณ์ SPF, PA มาบ้างแล้ว แต่ท่านทราบไหมว่ามีความหมายอย่างไร?

แสงแดดที่ส่องมาบนผิวโลกนั้น นอกจากแสงที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้ว ยังมีแสง UV รวมอยู่ด้วย แสง UV ที่ทะลุชั้นบรรยากาศมาได้ มี UV-A และ UV-B ส่วน UV-C (แสง UV ที่นิยมใช้ในเครื่องกรองน้ำ) นั้นไม่สามารถผ่านชั้น บรรยากาศเข้ามาได้.

UV-A มีพลังงานต่ำกว่า UV-B แต่อย่างไรก็ดี UV-A มีความสามารถผ่านทะลุเข้าไปสู่ชั้นผิวแท้ได้มากกว่า UV-B, UV-A ไม่ก่อให้เกิดผิวไหม้ แต่สามารณทำให้ เส้นใยคอลลาเจนในชั้นผิวแท้ถูกทำลาย และก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำให้เกิดริ้วรอย และมะเร็งผิวหนัง.

UV-B มีพลังงานที่สูงกว่า UV-A มาก สามารถผ่านชั้นหนังกำพร้าได้น้อยกว่า UV-A มาก ทำให้เกิดผิวไหม้ อาการแสบร้อน (sunburn) และ มะเร็งผิวหนังได้.

SPF หมายถึงประสิทธิภาพในป้องผิวจากแสงแดดการการไหม้ ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่าผิวของคุณทนต่อแสงแดด ได้เป็นเวลา 15 นาทีเกิดการอาการไหม้ การทาครีมป้องกันแสงแดด SPF 30 นั้นจะช่วยให้ผิวจะทดได้ 450 นาที ก่อนที่ผิวจะไหม้ จึงสรุปได้ว่า ค่า SPF เป็นค่าจำนวนเท่าของเวลาในการทนต่อแสงแดด ก่อนที่ผิวจะไหม้ (ป้องกันรังสี UV-B) ดังนั้นครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องป้องกันรังสี UV-A ได้ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF ที่สูง ไม่จำเป็นที่จะป้องกันรังสี UV ได้ดีเสมอไป.

PA หมายถึง Protection Grade of UVA หรือระดับการป้องกันแสง UV-A นั้นเอง ซึ่งมีอยู่ 3 ระดับ คือ PA+ , PA++ และ PA+++ โดยที่ PA+++ มีค่าการป้องกันสูงที่สุด PA+ นั้นเหมาะกับการป้องกันทั่วๆไป ส่วนผู้ที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรใช้ครีมกันแดดที่มี ระดับการป้องกัน PA++ ขึ้นไป.

Physical กับ Chemical Sun-screen Physical Sun-screen หรือครีมกันแดดชนิดกายภาพ คือเป็นสารที่ช่วยสะท้อนแสงออกไป ซึ่งอาจจะทำให้ดูขาววอก ส่วน Chemical Sun-screen จะทำการดูดซับรังสี UV แทนผิว แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสารควบคุมให้ใช้ในปริมาณที่จำกัด ตามกฏหมายเครื่องสำอางควบคุม

ขัดผิวกาย ด้วยสิ่งที่หาได้ในบ้านคุณ

การขัดผิวเป็นอีกวิธีที่ทำให้เซลล์ผิวเก่าที่ทับถมอยู่บนผิวของคุณหลุดออกไปทำให้ผิวใหม่กระจ่างใสที่ซ้อนอยู่ด้านในได้ออกมาอวดโฉม ซึ่งอุปกรณ์ในการขัดผิวนั้นจริงๆแล้วหาได้ไม่อยาก คุณก็สามารถทำเองได้ที่บ้าน สิ่งที่หาง่ายที่สุดในบ้านเช่น เกลือ กับน้ำตาล เป็นอุปกรณ์ชั้นเลิศในการขัดผิวกาย

การขัดผิวให้ดูกระจ่างใสนั้นมีมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณแล้ว โดยในสมัยนั้นสิ่งที่เอามาใช้ขัดผิวมีหลากหลายชนิด ตั้งแต่ธัญพืช เปลือกถั่ว ใบไม้ เปลือกหอย เกลือ และ อื่นๆอีกมากมายเท่าที่คนสมัยนั้นจะหามาได้

มันง่ายมากที่จะขัดผิว คุณอาจจะเคยเห็นผลิตภัณฑ์ขัดผิวราคาสูงหลากหลายชนิด บางตัวมีราคาสูงเกือบหลักพัน ถ้าลองดูดีๆที่ส่วนผสม คุณอาจจะแปลกใจว่าส่วนใหญ่แล้วส่วนประกอบหลัก จะมีอยู่ไม่กี่ชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น เกลือ น้ำตาล หรือ เปลือกของถั่วบางชนิดเท่านั้น และจะมีส่วนประกอบอื่นๆเล็กๆน้อยๆ ซึ่งก็ไม่ใช่สาระสำคัญอะไรนัก เพราะจุดประสงค์หลักๆแล้วคือการขัดเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปจากผิว

วิธีทำก็ไม่ยากเย็นนัก ส่วนผสมหรืออุปกรณ์ก็หาได้ไม่ยาก
1. สารที่จะนำมาเป็นส่วนผสมหลัก นั้นก็คือ เกลือ หรือ น้ำตาล 1 1/2 ถ้วยตวง
2. น้ำมัน 3/4 ถ้วยตวง
(แล้วแต่ชอบ เช่นน้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันโจโจ้บา หรืออาจจะผสมหลายๆชนิดตามความชอบ)
3. โยเกริต 1 ถ้วยตวง
4. น้ำผึ่ง 1/4 ถ้วยตวง
5. น้ำมันหอมระเหย หรือ น้ำหอมแต่งกลิ่น ตามชอบ (จะไม่ใส่ก็ได้)

นำมาผสมกันให้เข้ากันดี เท่านี้คุณก็ได้ผลิตภัณฑ์ขัดผิวคุณภาพที่คุณทำเองได้ในราคาย่อมเยาว์ และมีประสิทธิภาพมาใช้แล้ว

เสริมความงาม : วิธีธรรมชาติช่วยให้ผิวของคุณขาวใส

เสริมความงาม : วิธีธรรมชาติช่วยให้ผิวของคุณขาวใส
จุดด่างดำ, กระ และผิวหมองคล้ำ เป็นปัญหาสำหรับคุณหรือเปล่า ?? ต้องการให้ผิวของคุณขาวกระจ่างใสใช่ไหมละ

สีผิวไม่ว่าจะเป็นโทนไหนก็สวยได้ แต่เมื่อเราโตขึ้น สีผิวของเรามีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะป็นจุดด่างดำ ฝ้า กระ ที่เกิดเพิ่มขึ้น ดังนั้นหากคุณยังไม่พร้อมที่จะยอมรับยุคมืดของผิวคุณ นี้คือ เคล็ดลับและเทคนิค เล็กๆน้อยๆ เพื่อผิวขาว แบบธรรมชาติ

ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด
หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะอยู่งานคือการใช้กันแดดทุกวัน หา moisturizer ที่มี SPF 15 หรือสูงกว่าและใช้ทุกเช้าหลังจากล้างหน้าของคุณ กันแดดไม่เพียงป้องกันผิวจากการเข้ม แต่ยังบล็อกรังสียูวีที่เป็นอันตรายที่สามารถก่อให้เกิดมะเร็งและริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย อย่าลืมพื้นที่ที่คุณอาจจะลืมด้วยเช่นใบหู, มือ และ คอ

การขัดผิว
การขัดผิวสัปดาห์ละครั้งจะช่วยเอาเซลล์ผิวที่ตายออกและเผยความสดใสของผิว และยังช่วยลดการอุดตันของผิวอีกด้วย วิธีง่ายๆในการเตรียมขัดผิวที่ทำได้ที่บ้านก็คือ นำ ข้าวโอ๊ตและน้ำตาลอย่างละสองช้อนโต๊ะและนมครึ่งถ้วย ผสมให้เข้ากัน จากนั้นค่อยๆขัดหน้าของคุณแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

มาร์คหน้า
การมาร์คหน้า เป็นวิธีที่ดีที่อีกวิธีหนึ่งในการทำให้ผิวสว่างกระจ่างใส อาจจะใช้สัปดาห์ครั้ง วิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถทำเองได้ที่บ้านคือ คือ นำเอา น้ำมะนาว,มะเขือเทศ และ แตงกวา ในปริมาณที่เท่าๆกัน มาบดผสมให้เข้ากันดี แล้วนำมาวาง กระจายบนใบหน้าของคุณให้ทั่ว และรอจนกว่าจะแห้ง จากนั้นค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้วซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด

ใช้ ผลิตภัณฑ์ที่มี สารสกัดจากชะเอม (Licorice Extract)
Licorice extract หรือ สารสกัดจากชะเอม นั้นมีสารธรรมชาติที่เรียกว่า glabridin ซึ่งเป็นสารที่เป็นองค์ประกอบทำหน้าที่เป็น whitener สำหรับผิวตามธรรมชาติ ที่มีประสิทธิภาพสูง มีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลายชนิดชนิดที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากชะเอม

AHA กับการ เสริมความงาม

AHA : เอ เอช เอ

AHA ย่อมาจาก Alpha Hydroxy Acids หรืออาจจะรู้จักกันในชื่อ กรดผลไม้ ซึ่ง AHA ได้มีบทบาทในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการ เสริมความงาม มายาวนาน และมีใช้อย่างแพร่หลายใน เครื่องสำอาง นานาชนิด หลายต่อหลายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางดูแลผิว ได้ใช้ AHA เป็นดาวเด่นในการทำการตลาด โดยเฉพาะเรื่องผิวกระจ่างใส แล้วคุณรู้ไหมว่า จริงๆ แล้ว AHA ทำงานอย่างไร?

AHA เป็นสารที่เกิดจากน้ำตาลที่มีอยู่ในนม หรือ ผลไม้ AHA มีจุดเด่นทางด้าน การผลัดเซลล์ผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย และ ช่วยลดจุดด่างดำบนผิว โดยการที่ AHA ไปช่วยในการขัดเซลล์ผิวที่ตาย (ผิวชั้นหนังกำพร้า) แล้วออกจากผิวของคุณ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทดแทนเซลล์ผิวเก่าได้เร็วขึ้น AHA ยังช่วยในกบวนการผลิต อีลาสติน และ คอลลาเจน ซึ่งการเพิ่มของ อีลาสติน และ คอลลาเจน มีส่วนทำให้ริ้วรอยดูลดเลือนลง และช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า AHA จะมีใช้อย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ เสริมความงาม แต่ก็ใช่ว่าเราจะใช้ AHA ได้ในปริมาณมาก เพราะถ้าใช้ไม่ถูกวิธี หรือ ใช้ในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดการแพ้ หรือ การระคายเคืองของผิวได้เช่นกัน และแทนที่ AHA จะช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ก็อาจจะทำให้ผิวดูหมองคล่ำได้เช่นกัน ถ้าใช้อย่างไม่ระวัง

หลักๆแล้วเราใช้ผลิตภัณฑ์ เสริมความงาม ที่มี AHA เพียง 1-2 ชนิด เท่านั้นเพื่อไม่ให้เราใช้ AHA มากเกินไป และใช้ผลิตภัณฑ์ เสริมความงาม อื่นๆที่ไม่มี AHA เป็นส่วนประกอบ ถ้าจะให้แนะนำในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA ก็คือ ผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับการขัดผิว กับ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว โดยพื้นฐานแล้ว AHA จะช่วยในการขัดเซลล์ผิวเก่า และ การที่ AHA จะทำงานนั้นจะต้องถูกดูดซึมเข้าสู่ผิว ส่วนผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้านั้น ถูกล้างออกอย่างรวดเร็ว จน AHA แทบจะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ผิว ส่วนปริมาณ AHA ในผลิตภัณฑ์ ก็ควรอยู่ในระดับที่พอเหมาะ โดยควรมี AHA อยู่ประมาณ 5-8 เปอร์เซ็นต์

และสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มี AHA เป็นส่วนประกอบ ก็คือ จะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ กันแดด เสมอ เพราะ AHA จะช่วยเราผลัดเซลล์ผิวทำให้ผิวของเราบางลง และ ทำให้ผิวถูกทำลายจากแสงแดดได้ง่ายขึ้น และเราควรใช้ผลิตภัณฑ์ บำรุงผิวที่มี สาร AHA อย่างพอเหมาะ

8 สิ่งที่คุณอาจจะลืม ในการ เสริมความงาม

นี้คือ นิสัย 8 อย่าง ที่ดีในการบำรุงผิว ที่หลายคนอาจจะลืม

นิสัยทั้ง 8 อย่างนี้ เป็นสิ่งจำเป็นในการดูแลผิวพรรณ ควบคู่ไปกลับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ

1. ทำความสะอาดแปลงแต่งหน้าของคุณอยู่เสมอ อุปกรณ์เสริมความงานของคุณ อาจจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคชั้นดี ถ้าอุปกรณ์เหล่านั้นไม่สะอาด โดยเชื้อโรคบางชนิด อาจจะทำให้เกิดสิว และ การอักเสบได้ สำหรับวิธีการทำความสะอาดแปลงนั้น แนะนำว่าควรทำความสะอาดด้วยน้ำ และ ใช้แชมพูอ่อนๆ แล้วซับด้วยผ้าขนหนู และเป่าให้แห้ง เราแนะนำว่า อุปกรณ์ที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลวควรทำความสะอาดวันละครั้ง และ อุปกรณ์ที่ใช้กับผลิตภัณฑ์ที่เป็นผง ควรทำความสะอาดทุก 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังไม่ควรใช้อุปกรณ์เสริมความงามร่วมกับผู้อื่นอีกด้วย

2. การเก็บรักษา ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ในที่ที่เหมาะสม เป็นสิ่งที่จะลืมไม่ได้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ต่างๆสามารถเสียได้เช่นกัน แสงแดดและความร้อน เป็นศัตรูตัวฉกาจของผลิตภัณฑ์ บำรุงผิว ดังนั้นจึงไม่ควรเก็บผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ในที่ร้อน หรือ โดนแสงแดดโดยตรง นอกจากนี้การเก็บผลิตภัณฑ์เสริมความงามไว้ในห้องน้ำ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเช่นกัน เพราะในห้องน้ำนั้น มีความชื้นที่สูง และ เป็นแหล่งสะสมชั้นดีของเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจจะทำให้ผลิตภัณฑ์ เสริมความงาม ของคุณ เสื่อมสภาพได้

3. ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว จำไว้เสมอว่าร่างกายที่สมบูรณ์ ส่งผลดีต่อผิวของคุณ อาหารบางชนิดช่วยให้ผิวของคุณดูกระจ่างใส ช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระ ยกตัวอย่างเช่น มันฝรั่ง และผักใบเขียว อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูล อิสระ. วิตามิน C ที่มีในส้ม สามารถช่วยเสริมการสร้างคอลลาเจนในผิว. ผักที่มีวิตามินเอสูง เช่นผักขมและบร็อคโคลี ช่วยในกระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ และช่วยป้องกันผิวของคุณจากความแห้งกร้านอีกด้วย ปลาทะเลที่มี Omaga-3 Fatty Acid เช่น ปลาแซลมอล และ ปลาทูน่า สามารถช่วยลดการอักเสบที่ก่อนให้เกิดอนุมูลอิสระได้ อาหารประเภทเนื้อสัตว์นั้นอุดมไปด้วย Zinc และ Iron ที่ช่วยการทำงานต่างๆของเซลล์ เช่น เซลล์เม็ดเลือดแดงใช้ Iron ในการส่ง Oxygen ไปสู่ส่วนต่างๆของร่างกายรวมถึงผิวหนังด้วย

4 จัดการกับความเครียด เราอาจจะเคยได้ยินว่าความเครียดมีผลต่อผิว แต่คุณอาจจะประหลาดใจ ที่ความเครียดมีผลกับผิวและความงามของคุณได้มากเพียงใด ความเครียดสามารถขัดขวางการทำงานของผิวหนังของคุณได้อย่างรุนแรง ความเครียดยังทำให้เล็บเปราะ รวมถึงการกระตุ้นให้เกิดผมร่วง ผิวหนังจะแห้งได้ง่าย และ เสียงต่อการระคายเคือง และ อาหารแห้งต่างๆ รวมถึงทำให้ผิวหนังอ่อนแอ สามารถติดเชื้อได้ง่าย ความเครียดยังส่งผลกับสุขภาพโดยรวมของคุณซึ่งส่งผลถึงผิวของคุณด้วย

วิธีจัดการกับความเครียดง่ายๆ เช่น ลองการเล่นโยคะ หรือการออกกำลังกายแบบอื่นๆ ที่คุณสามารถสนุกกับมัน หรืออาจจะเป็นกิจกรรมงานอดิเรก หรือ กิจวัฒน์ประจำวันที่ทำให้ผ่อนคลาย เขียนไดอารี่ หรือการวาดรูป เป็นต้น

5 มีหลัก ข้อหนึ่งในการบำรุงผิวหลังอาบน้ำ นั้นก็คือ หลักการ 3 นาที การที่มีผิวที่ชุ่มชื้นเป็นจุดเริ่มต้นของผิวที่ดี หลังการอาบน้ำผิวจะสูญเสียความชื้นออกไปอย่างรวดเร็วเนื่องจาก น้ำมันต่างๆที่มีอยู่ในผิวถูกล้างออกไป การใช้ผลิตที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวจะเป็นการเก็บกักความชื้นให้อยู่ในผิว โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวใน 3 นาทีแรกหลังการอาบน้ำ จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ของผลิตภัณฑ์ประเภท moisturizer ได้อย่างดีเยี่ยม

6 การนอนหลับ เป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด และเป็นวิธีการดูแลผิวที่ไม่มีค่าใช้จ่าย และง่ายที่สุด การนอนหลับที่ดี ควรนอนหลับสนิทอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน โดยการนอนให้มีประสิทธิภาพนั้น ควรที่จะนอนให้เป็นเวลา ไม่ว่าจะนอนตอนไหนก็ตาม ซึ่งการนอนเป็นเวลาทำให้ร่างกายรับรู้และเตรียมพร้อมในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สำหรับสภาพแวดล้อมที่ดีในการนอนหลับ คือ ที่ที่เงียบสงบ และ ไม่มีแสงรบกวน นอกจากนี้ยังควรเป็นที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่มีกลิ่นอับ และไม่มีความชื้นสูง

7 ใช้น้ำมัน ถ้าคุณมีผิวที่แห้ง และไม่เป็นสิวง่าย การใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นที่มีน้ำมันหลากหลายชนิดเป็นส่วนประกอบ เป็นประจำจะช่วยให้มีผิวที่สุขภาพดี โดยน้ำมันจะไปเคลือบผิวทำให้ลดการสูญเสียความชุ่มชื้น และยังมี linoleic acid ที่ช่วยให้ผิวอุ้มน้ำ

8 ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแดด. การใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแดดไม่เพียงแต่ป้องกันผิวจากจุดด่างดำ และ โรคมะเร็งผิวหนัง เท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย และ ร่องลึกอีกด้วย หลายๆคนอาจจะใช้ครีมกันแดดในส่วนที่โดนแดดกันเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว แต่มีบางส่วนที่ มักเราจะถูกลืมเช่นบริเวณ หู คอ หน้าอก และ ขา เป็นต้น สำหรับวันที่ต้องออกนอกอาคารเป็นเวลานานๆ ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า spf 30 ขึ้นไป

ถ้าทำตามสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นได้เป็นประจำ ควบคู่กับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพ รับรองได้ว่าผิวของคุณจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การดูแลผิวให้อ่อนเยาว์ ควรเริ่มเมื่อไหร่ดี

หลายคนอาจจะมีคำถามอยู่ในใจ ว่าการดูแลรักษาผิวให้ดูดี และดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอนั้น ควรเริ่มเมื่อไหร่ดี ??

สำหรับการเริ่มต้นนั้น ควรเริ่มให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยการดูแลผิวนั้นควรทำหลายๆวิธีด้วยกันร่วมกัน เช่น การบำรุงด้วยเครื่องสำอางบำรุงผิว การทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงสี่งที่เป็นภัยต่อผิว ไม่ว่าจะเป็นแสง UV หรือ มลพิษ

เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์ต้านความชรา, ทำให้ดูอ่อนเยาว์ หรือ ผลิตภัณฑ์ลดเลือนรี้วรอย สิ่งที่คนทั่วไป คาดหวังจากผลิตภัณฑ์ บำรุงผิวเหล่านี้ก็ คือ การที่ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เพิ่งซื้อมาสดๆร้อนๆ ก่อนทีจะเข้านอน และตื้นขึ้นมาพบกับใบหน้าที่ดูดี ดูอ่อนเยาว์ในเช้าวันใหม่ แต่ในความเป็นจริง ไม่มีผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย หรือ เครื่องสำอางใด ที่จะทำให้คุณดูอ่อนเยาว์ลงเป็นปีๆ หรือช่วยลบริ้วรอยให้หมดไปในชั่วข้ามคืน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ราคาแพงเป็นหมื่น เป็นแสนก็ตาม

แล้วเหตุใด ถึงเป็นเช่นนั้น?? ก่อนอื่น ลองถามตัวเองดูว่า ผิวของคุณอายุเท่าไหร่?? แล้วคุณใช้ครีมบำรุงผิวของคุณนานเท่าไหร่?? ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นสามารถช่วยคุณได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น

ในความเป็นจริงเมื่อพ้นวัยรุ่น เจริญเติบโตของร่างกายก็จะช้าลงมาก กระบวนการต่างๆของร่างกายเป็นไปได้ในอัตราที่ช้าลง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเซลล์ใหม่ การผลัดผิว หรือ กระบวนการทางชีวเคมีอื่นๆของร่างกาย ในทางกลับกัน ความเสื่อมของร่างกาย ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ช้าตามการทำงานของร่างกาย และเมื่อการสร้างเซลล์ใหม่ เป็นไปได้ช้ากว่าการเสื่อมสภาพของเซลล์ ก็จะทำให้เกิดร่อยรอยแห่งวัยขึ้น และเมื่อสะสมมากขึ้นริ้วรอยต่างๆ ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนขึ้น นั้นเอง

แต่อย่างไรก็ดี การบำรุงผิว หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ก็ควรเลือกใช้ให้เหมาะกับสะภาพผิว และช่วงอายุด้วยเช่นกัน เพราะในครีมบำรุงผิว โดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย บางตัว จะมีสารสกัดที่เป็นฮอโมนพืชที่อาจไปกระตุ้นให้เกิดปัญหาสิวในผู้ที่อายุไม่มากได้เช่นกัน

10 วิธีทำให้คุณดู สวยงาม เสมอ

ความสวย ใช่ว่าจะดูกันเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น สิ่งที่สำคัญคือ ความงามต้องเกิดจากภายในไปสู่ภายนอก จุดสำคัญคือ การที่รู้สึกอ่อนเยาว์ ทั่งร่างกาย และ จิตใจ ซึ่งจะทำให้ได้ผลอย่างน่าประหลาดใจ

อาหาร
อาหารเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิต แน่นอน ทุกคนต้องทานอาหาร มีคำพูดของทางตะวันตกที่ว่า "You are what you eat" ซึ่งแปลว่า คุณจะเป็นอย่างที่คุณกิน แน่นอนว่าสิ่งที่ทานเข้าไป ร่างกายนำไปใช้ในการทำให้เกิดพลังงาน รวมถึงการซ่อมแซมส่วนที่สึกหลอ รวมถึงการสร้างเซลล์ใหม่ ทดแทนเซลล์เก่า และ กระบวนการทางชีวะเคมีอีกมากมาย โดยคนเราจำเป็นต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่างเพียงพอ และที่สำคัญคือ อาหารที่มีคุณภาพ และหลากหลาย

การออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย จะช่วยให้ร่างกายกระจายสารอาหาร รวมถึงฮอร์โมน ไปส่วนต่างๆของร่างกายได้อย่าง สมดุล รวมถึงเป็นการสร้างเสริมความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ให้กระชับ และ ดูอ่อนเยาว์ รวมถึงทำให้ผิวขับของเสียออกจากร่างกาย ทำให้ผิวดูสวย และ สุขภาพดีอีกด้วย นอกจากนี้การออกกำลังกาย ยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และช่วยในระบบไหลเวียนโลหิต

การพักผ่อน
การที่ร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ทำให้ร่างกายไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ การพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดริ้วรอย และยังทำให้เกิดขอบตาดำ รวมถึงถุงใต้ตา ซึ่งในแต่ละวัน คนเราควรหลับให้สนิทอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ซึ่งการพักผ่อนอย่างเพียงพอทำให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ และยังทำให้จิตใจปลอดโปร่ง และ ทำให้ไม่เครียดง่ายอีกด้วย

ลดการบริโภคน้ำตาล
การทานน้ำตาลมากๆ ทำให้ร่างกายหลั่งสาร Cortisol ที่เป็นตัวควบคุมความเครียด แต่สาร Cortisol ก็เป็นสารเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยของผิว และ ร่างกาย การลดการบริโภคน้ำตาล จะช่วยลดการผลิต Cortisol ในร่างกาย

หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่ ไม่ได้แค่ทำลาย ปอด และ หัวใจเท่านั้น แต่รวมถึงผิวหนังอืกด้วย ซึ่งสารในบุหรี่จะไปทำลายชั้นคอลลาเจนในผิว ทำให้เกิดริ้วรอย และ จุดด่างดำ ซึ่งนอกจากจะไม่สูบบุหรี่แล้ว ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่ด้วย เพราะควันบุหรี่มีสารเคมีนานา ชนิดที่เป็นอันตรายต่อร่างกายแม้ไม่ได้สูบ

หลีกเลี่ยง แอลกอฮอล
การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล ทำให้ตับทำงานอย่างหนัก ซึ่งตับเป็นอวัยวะในการกำจัดของเสีย และสารพิษในร่างกาย ทำให้ตับไม่สามารถกำจัดของเสียและสารพิษออกจากร่างกายได้ ส่งผลให้ผิวดูหมองคล้ำ และ เกิดริ้วรอย

การทำสมาธิ
การทำสมาธิ ทำให้จิตใจสงบ และช่วยให้ร่างกายหยุดการผลิตสาร Cortisol และการทำสมาธิยังช่วยให้ร่างกายคงความสวย ความงาม และความอ่อนเยาว์ได้เป็นอย่างดี

การทำความดี
การทำความดี ไม่ว่าจะเป็นการบริจาก หรือการให้ หรือแม้แต่การช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน จะช่วยทำให้รู้สึกมีความสุข ความผ่องใส ซึ่งสามารถสังเกตุได้ทางใบหน้า และ แววตา ทำให้คุณดูดีอยู่เสมอ


ทันสมัยเสมอ
การที่แต่งกาย หรือ ทำตัวให้ดูดี ดูทันสมัย จะช่วยทำให้คุณรู้สึกมั่นใจในความสวย ความงามของคุณ การใส่เสื้อผ้าให้พอดีตัว ไม่หลวม ไม่คับเกินไป รวมถึงการเลือกสีที่เหมาะกับผิวของคุณ ยังช่วยให้คุณดูดียิ่งขึ้น
Style

ขัดผิว
การขัดผิว ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายออกไป การขัดผิวสับดาห์ละ 1 ครั้ง จะช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น อ่อนเยาว์ และสุขภาพดี